การลงทุนแบบDCA ทำไมถึงเป็นวิธีที่นักลงทุนหลายคนแนะนำสำหรับนักลงทุนมือใหม่ ที่ต้องการที่จะเริ่ม
ต้นลงทุนแต่มีข้อจำกัดเรื่องทุน และการแบกรับความเสี่ยงที่ได้ไม่เยอะ การลงทุนแบบ DCA คือทางออก
การลงทุนแบบDCA หรือ Dollar Cost Average เป็นการลงทุนที่เหมาะกับ นักลงทุนมือใหม่ ที่สามารถ กระจายความเสี่ยง ได้เป็นอย่างดี เพราะDCA นั้นเป็นการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย โดยทยอยซื้อหุ้นหรือกองทุนเป็นงวดๆ ในจำนวนเท่าๆกัน โดยไม่ต้องสนใจราคา ตัวอย่างเช่น ซื้อกองทุนตราสารหนี้ 1,000 บาท ทุกวันที่ 5 ของเดือน อย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 20 ปี และเหตุผลที่เราควรลงทุนด้วยวิธี DCA นอกจากจะช่วยเฉลี่ยความเสี่ยงให้เราแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะดีกว่าการกะเก็งจังหวะซื้อขายด้วยตัวเองอีกด้วย ซึ่งการลงทุนแบบนี้นั้นก็สร้าง ผลตอบแทนที่ดี ได้แม้จะไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงเยอะ
ลงทุนสไตล์DCA รวยได้ไม่ต้องลุ้น ลงทุนสไตล์DCA เหมาะกับใครบ้าง ?
- นักลงทุนมือใหม่
- ผู้ที่ไม่มีเวลาวิเคราะห์หุ้น และติดตามข่าวสาร
- ผู้ที่ต้องการลงทุนในระยะยาว
- ผู้ที่ต้องการสร้างวินัยในการออม
- ผู้ที่มีเงินลงทุนเริ่มต้นน้อย
5 ข้อดีของ การลงทุนแบบDCA
- เป็นการลงทุนที่ขจัดอารมณ์และความรู้สึกในการลงทุนออกไป
- เป็นการลงทุนที่สามารถทยอยลงทุนได้รายเดือนตามความสามารถในการออมที่มีอยู่
- เป็นการลงทุนอย่างต่อเนื่องเป็นรายเดือนจะทำให้เรามีวินัยในการลงทุน
- เป็นการลงทุนอย่างมีระบบ
- เป็นการลงทุนระยะยาว กระจายความเสี่ยง ช่วยลดความผันผวนจากการลงทุนได้
ข้อจำกัดใน การลงทุนแบบDCA
- การรักษาวินัยในการออม และการลงทุนให้ได้อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องในระยะยาว
- กรณีตลาดขาขึ้น ผลตอบแทนอาจจะน้อยกว่าการซื้อหุ้นด้วยการจับจังหวะตลาด (Market Timing)
- สภาพคล่องในการซื้อขายต่ำ เช่น อาจขยายเศษหุ้นในการขาย Odd Lot ไม่ได้ทันที หากมีปริมาณการซื้อขายในตลาดไม่เพียงพอ
- พอร์ตลงทุนอาจเติบโตช้า เพราะเป็นการทยอยสะสมหุ้นด้วยเงินลงทุนทีละน้อย
5 ข้อต้องรู้ ! ก่อนเริ่มออมลงทุนDCA ในหุ้น
- เลือกหุ้นผิดชีวิตเปลี่ยน = ซื้อเฉลี่ยความจน
- ต้องเข้าใจการบริหารความเสี่ยงอย่าDCA ในหุ้นเพียงแค่ตัวเดียว เราจะทำDCA ในหุ้นหลายตัว
- โบรเกอร์เราเลือกได้ เลือกให้เหมาะสมกับความต้องการของเรา
- ต้องคิดคำนวณให้ดี ว่าเรามีกำลังความสามารถที่จะDCA ต่อเดือนได้เดือนละเท่าไร
- กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน และต้องมั่นคง “อย่าหยุดกลางทาง”
เลือก DCA แบบไหนดี
- DCAแบบอัตโนมัติ ช่วยตัดอารมณ์ส่วนตัวออกไป ลงทุนตามกรอบเวลาที่วางไว้กับ บล./บลจ. และมีค่าธรรมเนียมในการลงทุน
- DCAด้วยตัวเอง จับจังหวะลงทุนเองได้ บางช่วงอาจมีการใช้อารมณ์ในการลงทุน ทำให้มีโอกาสพลาดการลงทุนไปได้
- DCAแบบกำหนดจำนวนเงิน ต้นทุนเฉลี่ยในระยะยาวต่ำกว่า ทำให้ความผันผวนของอัตราผลตอบแทนต่ำกว่าแบบกำหนดจำนวนหุ้น
- DCAแบบกำหนดจำนวนหุ้น กำหนดงบประมาณการลงทุนยาก เพราะผลจากความผันผวนของราคาในแต่ละช่วงของการลงทุน
- DCAแบบรายเดือน จากการวิจัยพบว่าการลงทุนที่มีความถี่มาก จะยิ่งทำให้ความเสี่ยงจากการลงทุนน้อยลง
- DCAแบบรายปี ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนแบบรายปี หรือรายเดือน ไม่ได้มีความแตกต่างในแง่อัตราผลตอบแทน
ข้อดีของ การลงทุนแบบDCA
- ช่วยเฉลี่ยต้นทุนการลงทุน
- กำหนดวงเงินในการลงทุนเองได้
- ช่วยลดความเครียดเรื่องราคาหุ้น ที่มีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา รวมถึงกองทุนเองด้วย
ข้อเสียของ การลงทุนแบบDCA
- ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการเก็งกำไรในระยะสั้น
- เราต้องใช้เงินในการลงทุนทุกๆเดือนอย่างสม่ำเสมอ
วางแผนลงทุนแบบDCA
4 ขั้นตอน ซื้อกองทุนง่ายๆให้เป็นระบบ
- กำหนดเป้าหมายการลงทุน เช่น เป้าหมายระยะยาว วางแผนลงทุนเพื่อเกษียณในอีก 30 ปีข้างหน้า โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องมีเงิน 10 ล้านบาท
- กำหนดช่วงเวลาในการลงทุน ระยะเวลาลงทุน 30 ปี จะแบ่งส่วนหนึ่งจากเงินเดือนมาทยอยซื้อกองทุนรวม โดยตั้งระบบDCA ทุกวันที่เงินออก เช่น ลงทุนทุกวันที่ 28 ของแต่ละเดือน
- คำนวณเงินลงทุนรายงวด คำนวณเงินลงทุนต่อเดือนตามเป้าหมาย เช่น เก็บเงิน 10 ล้านบาท ใน 10 ปี สมมุติคาดหวังผลตอบแทน 8% ต่อปี คำนวณแล้วจะลงทุนเดือนละ 7,356 บาท
- เลือกกองทุนที่เหมาะสม เลือกกองทุนที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนสอดคล้องกับเป้าหมาย เช่น คาดหวังผลตอบแทน 8% ก็ควรเลือกลงทุนใน หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ หุ้นราย Sector
ทำไมควรDCA ในกองทุนรวม ?
- การเลือกหุ้นรายตัวมีความเสี่ยง ถ้าใครเลือกหุ้นถูกตัว พอร์ตที่DCA หุ้นก็อาจจะกำไรได้ดี แต่ถ้าใครเลือกหุ้นพลาดDCA หุ้นมาตั้งนานผลที่ได้อาจไม่น่าประทับใจนัก
- เป็นตัวที่ถูกใช้อ้างอิงผลตอบแทน ช่วยให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับความคาดหวังมากกว่าการDCA หุ้นรายตัว ซึ่งอาจจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าก็ได้
- หุ้นรายตัวมีข้อจำกัดด้านเงินลงทุนขั้นต่ำ จำนวนการซื้อหุ้นขั้นต่ำในตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ 100 หุ้น อาจไม่สามารถให้เราDCA ได้ตามจำนวนที่กำหนดไว้
- ความผันผวนน้อยกว่า ถือแล้วสบายใจมากกว่า การที่เราซื้อกองทุนรวมดัชนีที่อ้างอิงดัชนี SET50 ก็เหมือนการซื้อหุ้น 50 ตัวพร้อมๆ กัน ซึ่งวิธีนี้เองก็เป็นการกระจายความเสี่ยงได้อย่างดี
สรุปแล้วสำหรับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย หรือ DCA ของตลาดหุ้นนั้น ได้มีการวิจัยและพิสูจน์ในเชิงของข้อมูลสถิติ ว่าการลงทุนแบบDCA นั้นจะสามารถสร้างผลลัพธ์ของ ผลตอบแทนที่ดี ให้กับเราได้ เพราะหลักการของการDCA นั้นคือการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ลงทุนเป็นงวดๆ ต่อเนื่องทุกๆเดือน อย่างสม่ำเสมอ ไม่หยุดกลางจนกว่าจะถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้
ติดตามข่าวสารบทความดีๆจาก เว็บไซต์ : GOFX.CO
หรือทาง Facebook page : GOFX TH